ข่าวสาร

เผยโฉม Next Gen Ford EVEREST

02/03/2022

Next Generation Ford Everest ใหม่ ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก มาพร้อมขุมพลังครื่องยนต์ดีเซล Turbo/Bi-Turbo 2.0 ลิตร และมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตมีลุ้นวางขายในไทยปลายปีนี้

Next Generation Ford Everest ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Nest Gen Ranger ที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Sport, Titanium+ และ Platinum ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ มาพร้อมฐานล้อที่มีขนาดยาวขึ้น 50 มม. รวมถึงระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้าและหลังที่กว้างขึ้น ตั้งเป้าจับกลุ่มลูกค้าที่รักการผจญภัย ชอบเดินทางไปกับครอบครัวและเพื่อนฝูง รองรับทั้งการใช้งานในเมืองและนอกเมือง

ดีไซน์ด้านหน้าของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ถูกถอดแบบมาจาก เรนเจอร์ ด้วยไฟหน้า Matrix LED รูปทรงตัว C และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมเส้นสายตัวถังที่เน้นความบึกบึน และดีไซน์ด้านท้ายที่ออกแบบต่างไปจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน สามารถลุยน้ำได้ลึกสุด 800 มม. และรองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุด 3,500 กิโลกรัม ขณะที่ราวหลังคารองรับน้ำหนักได้มากสุด 350 กิโลกรัมในขณะรถจอดอยู่กับที่ และ 100 กิโลกรัมขณะรถเคลื่อนที่ พร้อมจุดยึดเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง และฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง สามารถปรับอุณหภูมิและระบายอากาศได้ พร้อมระบบจดจำการตั้งค่าส่วนตัวทั้งสองตำแหน่ง ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 ยังมีระบบปรับอุณหภูมิ (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) สามารถปรับเลื่อนและพับแยกแบบ 60:40 ได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 ถูกออกแบบให้เข้า-ออกได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม สามารถปรับพับแยก 50:50 ด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงมีช่องเก็บสัมภาระและช่องจ่ายไฟมาให้ครบทั้ง 3 แถว

Next Generation Ford Everest ใหม่ ยังถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว หรือ 12.4 นิ้ว พร้อมหน้าจอสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ทำงานคู่กับระบบเชื่อมต่อ SYNC 4A รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมโทรศัพท์, ระบบความบันเทิง และข้อมูลต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชัน FordPass ที่มีฟีเจอร์สตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกล, ตรวจเช็กสถานะต่างๆ ของรถ และควบคุมล็อกประตูผ่านสมาร์ทโฟนได้

ด้านขุมพลังของ Next Generation Ford Everest ใหม่ ชูไฮไลท์เด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซล V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร วางจำหน่ายควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ดีเซล Turbo และ Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Selective 10 สปีด

นอกจากนี้ Next Generation Ford Everest ใหม่ ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก 2 แบบ ทั้งแบบพาร์ทไทม์ Electronic Shift-On-The-Fly และแบบฟูลไทม์ พร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical Transfer Case - EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้า และมีโหมดการขับขี่ตามสภาพถนน สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่แบบออฟโรดบนหน้าจอ ทั้งกล้องด้านหน้าพร้อมเส้นกะระยะ, ระบบส่งกำลังและระบบล็อกเฟืองท้าย, มุมพวงมาลัย และระดับความเอียงของรถ

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ) ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive Cruise Control with Stop and Go), ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop and Go and Lane Centering) และระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent adaptive Cruise Control)

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่เพิ่มเติมจากรุ่นเดิม เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping system with road-edge detection), ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive steer assist), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse brake assist), ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind spot information system with trailer coverage) และระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision assist with intersection functionality) รวมถึงระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ใหม่ล่าสุดที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์, คันเร่ง และเบรกเองได้

ทั้งนี้เตรียมพร้อมสัมผัสกับการมาของ Next Generation Ford Everest 2023 ได้ที่ ฟอร์ด วี.พี. เพชรเกษม 77 และ สามารถจองเพื่อเป็นเจ้าของก่อนใครได้แล้วตอนนี้ โทร 02 809 5522

Back

V.P. Auto Enterprise Co.,Ltd


ฟอร์ด วี.พี. เพชรเกษม 77

0 2 809 5522 รายละเอียดเพิ่มเติม